วันเสาร์ที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2557

การกระทำความผิดเกี่ยวกับการเลือกตั้ง

ข้อกฎหมายเกี่ยวกับการเลือกตั้ง
และการกระทำความผิดเกี่ยวกับการเะลือกตั้ง
.....................................

ความผิดเกี่ยวกับการหาเสียงเลือกตั้ง ส.ส.
การให้ หรือสัญญาว่าจะให้ เงิน หรือทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใด หรือการเลี้ยง หรือรับจะจัดเลี้ยง หรือหลอกลวง หรือใช้อิทธิพลคุกคาม หรือใส่ร้าย เพื่อจูงใจให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งลงคะแนนเลือกตั้ง หรือไม่ลงคะแนนเลือกตั้ง
          เป็นความผิดมีโทษจำคุก ๑ ปี ๑๐ ปี และปรับ ๒๐,๐๐๐ บาท ๒๐๐,๐๐๐ บาท
และถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง ๑๐ ปี   (มาตรา ๕๓ ประกอบมาตรา ๑๓๗)
การจัดยานพาหนะนำผู้มีสิทธิเลือกตั้งไปหรือกลับจากที่เลือกตั้ง เพื่อการเลือกตั้ง โดยไม่ต้องเสียค่าโดยสาร
          เป็นความผิดมีโทษจำคุก ๑ ปี ๕ ปี หรือปรับ ๒๐,๐๐๐ บาท ๑๐๐,๐๐๐ บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง ๕ ปี       ( มาตรา ๕๕ ประกอบมาตรา ๑๔๕)
การให้คนที่ไม่มีสัญชาติไทยช่วยเหลือในการหาเสียง
          เป็นความผิดมีโทษจำคุก ๑ ปี ๑๐ ปี และปรับ ๒๐,๐๐๐ บาท ๒๐๐,๐๐๐ บาท(มาตรา ๕๖ ประกอบมาตรา ๑๔๖)
          การหาเสียงให้ผู้สมัครรับเลือกตั้งตั้งแต่เวลา ๑๘.๐๐ นาฬิกา ของวันก่อนวันเลือกตั้งหนึ่งวันจนสิ้นสุดวันเลือกตั้ง
          เป็นความผิด มีโทษจำคุกไม่เกิน ๖ เดือน หรือปรับไม่เกิน ๑๐,๐๐๐ บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
(มาตรา ๕๘ ประกอบมาตรา ๑๔๗)
ห้ามปิดประกาศ หรือติดแผ่นป้ายเกี่ยวกับการเลือกตั้งนอกเหนือจากที่ทางราชการกำหนด รวมทั้งติดในสถานที่ของเอกชน และห้ามหาเสียงโดยการติดแผ่นป้ายแนะนำตัวผู้สมัครเกินขนาดและมีจำนวนไม่เป็นไปตามที่  คณะกรรมการการเลือกตั้งกำหนด หรือการหาเสียงตามสถานีวิทยุหรือสถานีโทรทัศน์นอกเหนือจาก   ที่คณะกรรมการการเลือกตั้งกำหนดไว้ 
          เป็นความผิด มีโทษจำคุกไม่เกิน ๖ เดือน หรือปรับไม่เกิน ๑๐,๐๐๐ บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ        (มาตรา ๖๐ ประกอบมาตรา ๑๔๗)
การเรียก หรือรับทรัพย์สินในการลงสมัครหรือไม่ลงสมัครรับเลือกตั้ง เพื่อเป็นประโยชน์แก่ผู้สมัครรับเลือกตั้ง หรือพรรคการเมือง 
          เป็นความผิดมีโทษจำคุก ๑ ปี ๑๐ ปี หรือปรับ ๒๐,๐๐๐ บาท ๒๐๐,๐๐๐ บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง ๑๐ ปี        (มาตรา ๕๔ วรรคหนึ่ง ประกอบมาตรา ๑๔๔ วรรคหนึ่ง)
          เจ้าหน้าที่ของรัฐใช้ตำแหน่งหน้าที่โดยมิชอบด้วยกฎหมายกระทำการใด ๆ เพื่อเป็นคุณหรือเป็นโทษแก่ผู้สมัครหรือพรรคการเมือง 
          เป็นความผิดมีโทษจำคุก ๑ ปี - ๑๐ ปี และถูกปรับ ๒๐,๐๐๐ บาท - ๒๐๐,๐๐๐ บาท
และถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง ๑๐ ปี            (มาตรา ๕๗ ประกอบมาตรา ๑๓๗ )

ความผิดเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้ง ส.ส.
          ผู้สมัครรับเลือกตั้ง หรือหัวหน้าพรรคใช้จ่ายในการเลือกตั้งเป็นจำนวนเงินเกินกว่าที่คณะกรรมการการเลือกตั้งกำหนด 
          เป็นความผิดมีโทษจำคุก ๑ ปี - ๕ ปี หรือปรับ ๒๐,๐๐๐ บาท ๑๐๐,๐๐๐ บาท หรือ ปรับเป็น ๓ เท่าของจำนวนเงินเกินกำหนด หรือทั้งจำทั้งปรับ และถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง ๕ ปี
(มาตรา ๕๐ วรรคสาม ประกอบมาตรา ๑๔๑)
ผู้สมัครรับเลือกตั้ง หรือหัวหน้าพรรคไม่ยื่นบัญชีการใช้จ่ายในการเลือกตั้งภายใน ๙๐ วันหลังจากวันเลือกตั้ง หรือยื่นหลักฐานไม่ถูกต้องครบถ้วน 
          เป็นความผิดมีโทษจำคุกไม่เกิน ๒ ปี หรือปรับไม่เกิน ๔๐,๐๐๐ บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
และถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง ๕ ปี       (มาตรา ๕๒ ประกอบมาตรา ๑๔๓ วรรคหนึ่ง)
          ผู้สมัครรับเลือกตั้ง หรือหัวหน้าพรรคยื่นบัญชีรายรับรายจ่ายในการเลือกตั้งเป็นเท็จ 
          เป็นความผิดมีโทษจำคุก ๑ ปี - ๕ ปี และปรับ ๒๐,๐๐๐ บาท ๑๐๐,๐๐๐ บาท และถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง ๕ ปี (มาตรา ๕๒ ประกอบมาตรา ๑๔๓ วรรคสอง)
สมุห์บัญชีเลือกตั้งจัดทำบัญชีรายรับรายจ่ายในการเลือกตั้งไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ และวิธีการที่คณะกรรมการการเลือกตั้งประกาศ
          เป็นความผิดและมีโทษจำคุกไม่เกิน ๑ ปี และปรับไม่เกิน ๒๐,๐๐๐ บาท และถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง ๕ ปี และห้ามเป็นสมุห์บัญชีเลือกตั้ง ๕ ปี          ( มาตรา ๕๑ วรรคสอง ประกอบมาตรา ๑๔๒)

ความผิดเกี่ยวกับผู้สมัครและการสมัครรับเลือกตั้ง
          การลงสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขต หรือแบบสัดส่วน โดยรู้อยู่ว่าตนเองไม่สิทธิลงสมัคร หรือการลงสมัครรับเลือกตั้งในนามพรรคการเมืองเกินกว่า ๑ พรรค หรือลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทั้งแบบแบ่งเขตและแบบสัดส่วน หรือลงสมัครรับเลือกตั้งเกินกว่า ๑ เขตเลือกตั้ง หรือการสมัครลงรับเลือกตั้งมากกว่า ๑ เขตเลือกตั้ง
          เป็นความผิด มีโทษจำคุก ๑ ปี ๑๐ ปี และปรับ ๒๐,๐๐๐ บาท ๒๐๐,๐๐๐ บาท และถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง ๑๐ ปี (มาตรา ๓๔ มาตรา ๓๕ มาตรา ๓๘ วรรคสอง ประกอบมาตรา ๑๓๙)

ความผิดเกี่ยวกับผู้มีสิทธิเลือกตั้งและบัญชีรายชื่อ
การย้ายชื่อบุคคลอื่นเข้ามาในทะเบียนบ้านเพื่อประโยชน์ในการเลือกตั้ง 
          เป็นความผิดมีโทษจำคุกไม่เกิน ๒ ปี หรือปรับไม่เกิน ๔๐,๐๐๐ บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
(มาตรา ๓๓ ประกอบมาตรา ๑๓๘)

ความผิดเกี่ยวกับการลงคะแนนเลือกตั้ง
การลงคะแนนเลือกตั้งโดยรู้อยู่ว่าตนเองไม่สิทธิลงคะแนนเลือกตั้ง โดยใช้เอกสารแสดงตน อันเป็นเท็จ 
          เป็นความผิดมีโทษจำคุก ๑ ปี - ๑๐ ปี และปรับ ๒๐,๐๐๐ บาท ๒๐๐,๐๐๐ บาท และถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง ๑๐ ปี (มาตรา ๗๐ ประกอบมาตรา ๑๓๗)
การขัดขวาง ไม่ให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งไป ณ หน่วยเลือกตั้ง หรือลงคะแนนเลือกตั้ง 
          เป็นความผิดมีโทษจำคุก ๑ ปี - ๕ ปี หรือปรับ ๒๐,๐๐๐ บาท ๑๐๐,๐๐๐ บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง ๕ ปี (มาตรา ๗๖ ประกอบมาตรา ๑๕๒ วรรคหนึ่ง)
          การถ่ายภาพบัตรเลือกตั้งที่ได้ลงคะแนนเลือกตั้งไว้แล้ว หรือการแสดงบัตรเลือกตั้งที่ได้ลงคะแนนเลือกตั้งไว้แล้วให้ผู้อื่นทราบถึงการลงคะแนนเลือกตั้ง 
          เป็นความผิดมีโทษจำคุก ไม่เกิน ๑ ปี หรือปรับไม่เกิน ๒๐,๐๐๐ บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
(มาตรา ๗๓ มาตรา ๗๕ ประกอบมาตรา ๑๕๓)
ผู้บังคับบัญชา หรือนายจ้างขัดขวางการไปใช้สิทธิเลือกตั้งของผู้ใต้บังคับบัญชา หรือลูกจ้าง 
          เป็นความผิดมีโทษจำคุกไม่เกิน ๒ ปี หรือปรับไม่เกิน ๔๐,๐๐๐ บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ(มาตรา ๑๓๖)
          ผู้มีสิทธิเลือกตั้งเรียก รับ หรือยอมจะรับเงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใด เพื่อลงคะแนนหรือไม่ลงคะแนนให้แก่ผู้สมัคร หรือพรรคการเมืองใด 
          เป็นความผิดมีโทษจำคุก ๑ ปี - ๕ ปี หรือปรับ ๒๐,๐๐๐ บาท ๑๐๐,๐๐๐ บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง ๕ ปี (มาตรา ๗๗ ประกอบมาตรา ๑๕๒)

ความผิดเกี่ยวกับบัตรเลือกตั้ง
การนำบัตรเลือกตั้งออกไปจากที่เลือกตั้ง หรือการทำเครื่องหมายเป็นที่สังเกตไว้ในบัตรเลือกตั้ง หรือการนำบัตรเลือกตั้งใส่ในหีบบัตรเลือกตั้งโดยไม่มีอำนาจตามกฎหมาย หรือการทำบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้งผิดไปจากความเป็นจริง หรือกระทำการให้บัตรเลือกตั้งเพิ่มขึ้นไปจากความเป็นจริง
          เป็นความผิดมีโทษจำคุก ๑ ปี - ๕ ปี หรือปรับ ๒๐,๐๐๐ บาท ๑๐๐,๐๐๐ บาท หรือทั้งจำทั้งปรับและถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง ๕ ปี (มาตรา ๗๑ วรรคสอง มาตรา ๗๒ มาตรา ๗๔ ประกอบมาตรา ๑๕๒ วรรคหนึ่ง)
การใช้บัตรอื่นที่มิใช่บัตรเลือกตั้งที่กฎหมายกำหนดหรือการใช้บัตรเลือกตั้งที่มิใช่บัตรเลือกตั้งที่ตนได้รับมา  จากการแสดงตน   เพื่อลงคะแนนเลือกตั้ง 
          เป็นความผิดมีโทษจำคุก ๑ ปี ๑๐ ปี และปรับ ๒๐,๐๐๐ บาท - ๒๐๐,๐๐๐ บาท และถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง ๑๐ ปี(มาตรา ๗๑ วรรคหนึ่ง ประกอบมาตรา ๑๕๑)

ความผิืดเกี่ยวกับการร้องเท็จและเป็นพยานเท็จ
กระทำการอันเป็นเท็จให้ผู้อื่นเข้าใจว่าผู้สมัครรับเลือกตั้งกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง 
          เป็นความผิดมีโทษจำคุกไม่เกิน ๒ ปี หรือปรับไม่เกิน ๔๐,๐๐๐ บาท และถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง ๕ ปี   (มาตรา ๑๔๐ วรรคหนึ่ง)
          กระทำการอันเป็นเท็จเพื่อกลั่นแกล้งผู้สมัครรับเลือกตั้ง เพื่อให้ผู้สมัครนั้นถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง หรือไม่ให้มีการประกาศผลเลือกตั้ง 
          เป็นความผิดมีโทษจำคุก ๕ ปี - ๑๐ ปี และปรับ ๑๐๐,๐๐๐ บาท ๒๐๐,๐๐๐ บาท
และถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง ๑๐ ปี (มาตรา ๑๒๒ ประกอบมาตรา ๑๔๐ วรรคสอง)
การกล่าวหาผู้สมัครรับเลือกตั้งว่ากระทำผิดกฎหมายเลือกตั้งต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง อันเป็นเท็จ
          เป็นความผิดมีโทษจำคุก ๗ ปี - ๑๐ ปี และปรับ ๑๔๐,๐๐๐ บาท ๒๐๐,๐๐๐ บาท
และถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง ๒๐ ปี(มาตรา ๑๔๐ วรรคสาม)

ความผิดเรื่องอื่นๆ ที่สำคัญเกี่ยวกับการเลือกตั้ง ส.ส.
          การขัดขวางคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือผู้ที่คณะกรรมการการเลือกตั้งได้มอบอำนาจไม่ให้เข้าไปในที่อยู่อาศัย สถานที่ หรือยานพาหนะ เพื่อตรวจ ค้น ยึด หรืออายัดทั้งเอกสารทรัพย์สิน หรือพยานหลักฐานอื่นๆ เมื่อมีหลักฐานที่เชื่อได้ว่ามีการกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง 
          เป็นความผิดมีโทษจำคุกไม่เกิน ๑ ปี หรือปรับไม่เกิน ๒๐,๐๐๐ บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
(มาตรา ๑๑๒ วรรคหนึ่ง (๑) ประกอบมาตรา ๑๕๔ วรรคหนึ่ง)
การขาย จำหน่าย จ่ายแจก หรือจัดเลี้ยงสุราตั้งแต่เวลา ๑๘.๐๐ นาฬิกา ของก่อนวันเลือกตั้งหนึ่งวัน  จนสิ้นสุดวันเลือกตั้ง 
          เป็นความผิดมีโทษจำคุกไม่เกิน ๖ เดือน หรือปรับไม่เกิน ๑๐,๐๐๐ บาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ (มาตรา ๑๕๕)
การเล่น หรือจัดให้เล่นพนันขันต่อเกี่ยวกับผลการเลือกตั้ง 
          เป็นความผิดมีโทษจำคุก ๑ ปี - ๕ ปี หรือถูกปรับ ๒๐,๐๐๐ บาท - ๑๐๐,๐๐๐ บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง ๕ ปี(มาตรา ๑๕๖)
การเปิดเผย หรือเผยแพร่ผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชนเกี่ยวกับการลงคะแนนการเลือกตั้งในระหว่าง ๗ วัน ก่อนวันเลือกตั้งจนถึงเวลาปิดการลงคะแนนการเลือกตั้ง 
         เป็นความผิดมีโทษจำคุกไม่เกิน ๓ เดือน หรือถูกปรับไม่เกิน ๖,๐๐๐ บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ (มาตรา ๑๕๐)
การกระทำความผิดเกี่ยวกับกฎหมายเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร นอกราชอาณาจักร ไม่ว่าจะเป็นตัวการ ผู้สนับสนุน หรือผู้ใช้ให้กระทำความผิดนั้น ให้ถือว่าตัวการ ผู้สนับสนุน หรือผู้ใช้ให้กระทำความผิดนั้นได้กระทำในราชอาณาจักร   (มาตรา ๑๖๐)
          ผู้สมัครรับเลือกตั้ง หรือสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือศาลฎีกามีคำสั่งให้ เพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง และเป็นเหตุให้ต้องมีการเลือกตั้งใหม่  ต้องรับผิดและชดใช้ค่าใช้จ่ายสำหรับการจัดการเลือกตั้งใหม่  (มาตรา ๑๑๓)